Blind Spot มุมอับกับอุบัติเหตุรอบตัวรถ
visible = สามารถสังเกตเห็นได้ invisible = จุดบอด
ช่วงนี้เรื่องราวเกี่ยวกับรถพ่วง รถบรรทุกขนาดใหญ่กำลังอยู่ในกระแส เลยถือโอกาสกล่าวถึงจุดเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ง่ายที่อยู่บริเวณโดยรอบตัวรถ
จุดบอด หรือ Blind Spot ก็คือ จุดที่ผู้ขับขี่ไม่สามารถสังเกตเห็นได้นั่นเอง จะเนื่องด้วยโครงสร้างของตัวรถเอง หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่เรานำมาประดับตกแต่งตัวรถก็ตาม
ดังนั้นการเพิ่มความระมัดระวังในจุดบอดดังกล่าวจึงสิ่งที่ผู้ใช้รถใช้ถนนโดยทั่วไปจะต้องทราบ และ หลีกเลี่ยง รวมไปถึงหาวิธีการที่จะลดจุดบอดให้เหลือน้อยที่สุด
และอย่างที่ผมมักเน้นย้ำในการจัดการฝึกอบรมทุกครั้งก็คือทุกคนที่เกี่ยวข้องเป็นผู้มีหน้าที่ในการจัดการกับปัญหานั้นๆ คือถ้าเป็นเราจะจัดการกับปัญหานี้อย่างไร
- เริ่มจากการจัดการภายในตัวรถกันก่อนเลยดีกว่า ผู้ขับขี่จะต้องจัดการกับสิ่งของภายในห้องโดยสารที่อาจบดบังการมองเห็นได้ไม่ว่าจะเป็นพวงมาลัยที่ห่อยอยู่บริเวณกระจกมองหลัง, ตุ๊กตาบริเวณหน้าคอนโซนและกระจกหลัง, สติ๊กเกอร์หน้ารถ, ผ้าม่านกันแดด
- การปรับตั้งกระจกมองหลัง และกระจกมองข้าง
- จุดบอดต่างๆของตัวรถตามรูปภาพที่แนบมา
- เทคนิคการลดจุดบอด โดยปกติแล้ว ผู้ขับขี่สามารถลดจุดบอดด้วยวิธีการง่ายๆ ได้แก่ การเคลื่อนสายตาตลอดเวลา อย่างน้อยก็จะต้องมองกระจกข้าง หรือกระจกมองหลังทุกๆ 6 - 8 วินาที ในกรณีที่ขับไปในทางตรง และมองข้ามไหล่ทุกครั้งที่ต้องการเปลี่ยนช่องการจราจร หรือเปลี่ยนเลน โดยยึดหลัก LSM (หลักปฏิบัติในการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมขณะขับรถ) ซึ่งจะกล่าวถึงในตอนต่อๆ ไป
และอย่างที่กล่าวไว้ในตอนต้นว่ามิใช่แต่ผู้ขับขี่เท่านั้นที่จะต้องเป็นผู้ระมัดระวังเป็นพิเศษ เราเองก็จะต้องเรียนรู้ว่ารถประเภทต่างๆ มีจุดบอดตรงไหนบ้าง และหลีกเลี่ยงที่จะเข้าไปอยู่ในจุดนั้น อย่างเช่นการหยุดรอจนกว่าจะคิดว่าปลอดภัย แต่หากไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ ก็จำเป็นที่ต้องทำ ให้ผู้ขับขี่สามารถสังเกตุเห็นเราได้ ซึ่งก็มีอยู่หลายวิธี อย่างเช่นการบีบแตร การเพิ่มจุดสังเกตุด้วยการยกมือ เป็นต้น
เรียบเรียง :www.addkusa.com